หนังสือแห่งการกดขี่
Books of Oppression
การกดขี่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ได้ต่อเมื่ออำนาจ รองรับด้วยระบบสนับสนุน ซึ่งก็คือบรรทัดฐานทางสังคมนั่นเอง มนุษย์กำหนดบรรทัดฐานต่างๆ ขึ้นมาเป็นกรอบเงื่อนไขในการกีดกันหรือจำกัดสิทธิการเข้าถึงทรัพยากร จึงทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม การเลือกปฏิบัติ และการกดขี่เอารัดเอาเปรียบ คนในสังคมถูกกดขี่ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว มีกำแพงใสมากมายที่ปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ระบอบและโครงสร้างสังคม ชนชั้นวรรณะ ตระกูล เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา ฐานะ ศาสนา ความเชื่อ ประเพณี ฯลฯ ทั้งนี้ การยินยอมของผู้ที่ถูกกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นการยอมแพ้ ยอมรับอำนาจ หรือยอมปรับตัวให้อยู่รอด คือสิ่งที่ทำให้การกดขี่ไม่มีวันสูญสลาย
ชวนรู้จัก หนังสือแห่งการกดขี่ 15 เล่ม ที่ช่วยเปิดมุมมองเพื่อเข้าถึงการกดขี่หลากหลายรูปแบบที่มีอยู่ในสังคม
① สามัญสำนึก
แปลจากหนังสือ Common Sense ผู้เขียน โธมัส เพน (Thomas Paine)
ผู้แปล ภัควดี วีระภาสพงษ์ สำนักพิมพ์ bookscape
ว่ากันว่านี่คือจุลสารการเมืองที่ทรงพลังที่สุดและมีส่วนนำไปสู่การตัดสินใจปลดแอกตนเองจากการเป็นข้าทาสภายใต้ระบอบกษัตริย์ของอังกฤษที่สืบทอดการปกครองผ่านทางสายเลือด เสพสุขจากเงินภาษีที่ขูดรีดไปจากประชาชน และลิดรอนสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนพึงมี มุ่งสู่การมีระบอบการปกครองเพื่อคนส่วนรวมทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่ออภิสิทธิ์ชนคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• สัญญาประชาคมหรือหลักแห่งสิทธิทางการเมือง (The Social Contract) โดย ฌอง-ฌาคส์ รุสโซ
• ธอมัส เพน Thomas Paine นักปฏิวัติสากลนิยมคนแรก โดย รศ. วิทยากร เชียงกูล
② หมอผีครองเมือง
แปลจากหนังสือ The Crucible ผู้เขียน อาเธอร์ มิลเลอร์ (Arthur Miller)
ผู้แปล วัชระ คุปตะเวทิน สำนักพิมพ์ ดวงกมล
ความประพฤตินอกรีตทำให้การล่าแม่มด อุบัติขึ้นในเมืองซาเล็ม และกลายมาเป็นเครื่องมือห้ำหั่นเพื่อสนองความต้องการส่วนตัว หากพิจารณาร่วมกับยุคสมัยต่อต้านแนวคิดคอมมิวนิสต์ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นช่วงที่มิลเลอร์เขียนบทละครเรื่องนี้ขึ้นมาก็จะเห็นภาพการกดขี่ (โดยเฉพาะกับเพศหญิง) ความอยุติธรรม และโทษทัณฑ์ถึงชีวิตที่คนจำนวนหนึ่งต้องเผชิญเพียงเพราะคิด-เห็น-เป็น ‘ต่าง’ จากค่านิยมของคนส่วนใหญ่ที่ได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดมาจากชนชั้นปกครองหรือผู้กุมอำนาจ
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•ล่าแม่มด โดย อนุสรณ์ ติปยานนท์
•Vinegar Tom โดย คาริล เชอร์ชิล
•The Scarlet Letter โดย นาธาเนียล ฮอว์ธอร์น
③ เกลียด
แปลจากหนังสือ The Hate You Give ผู้เขียน แองจี้ โทมัส (Angela Thomas)
ผู้แปล สุธาสินี วรรณสิทธิ์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
นวนิยายที่บอกเล่าถึงสภาพสังคมและปัญหาจากการเป็นคนผิวดำในสหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กสาววัย 16 ปี กลายเป็นพยานคนเดียวในอาชญากรรมที่ป้ายสีและสร้างภาพให้ผู้เคราะห์ร้ายกลายเป็นผู้ร้าย การบิดเบือนภาพคนผิวดำจนบิดเบี้ยวก่อให้เกิดอคติและการเลือกปฏิบัติ ไปจนถึงข้อบังคับซึ่งกดขี่ให้จำยอมและจำทนรับสภาพการเป็นเบี้ยล่าง และละเมิดสิทธิเสรีภาพเสียจนกลายเป็นความปกติเพราะคุ้นชิน เสียงในใจเด็กสาวบอกว่าเธอไม่ควรนิ่งเงียบต่อความอยุติธรรม แต่เสียงเรียกร้องให้ปลดเปลื้องการกดขี่นั้นต้องดังมากขนาดไหนผู้คนถึงจะได้ยิน
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด (To Kill a Mockingbird) โดย ฮาร์เปอร์ ลี
•จงไปวางยามไว้ให้เฝ้าดู (Go Set a Watchman) โดย ฮาร์เปอร์ ลี
④ ห้องของโจวันนี
แปลจากหนังสือ Giovanni’s Room ผู้เขียน เจมส์ บอลด์วิน (James Baldwin)
ผู้แปล โตมร ศุขปรีชา สำนักพิมพ์ Library House
บรรทัดฐานสังคมที่กำหนดให้มีเพียงแค่ชายกับหญิง ตามเพศสภาพได้กดทับตัวตนและหัวใจของชายสองคนที่มีรักให้กัน หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของชายรักชาย แต่เป็น ‘ชายอเมริกันที่หลงรักชายชาวอิตาเลียน’ ผู้ซึ่งกำลังเติบโตและแสวงหาอัตลักษณ์ของตนในช่วงที่สังคมโลกยังไม่เปิดกว้างให้กับความหลากหลายทางเพศ การกดขี่ตัวตนของปัจเจกฝังรากลึกในทุกบริบทรอบตัวตอกย้ำความแปลกแยกและเป็นอื่น อีกทั้งความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนสองคนยิ่งเสริมแรงกดทับจนนำไปสู่ความสัมพันธ์สามเส้าและความโศกเศร้าที่เกาะกินกดขี่หัวใจตราบชั่วชีวิต
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•ที่ใดมีความเศร้า (De Profundis) โดย ออสการ์ ไวลด์
•เอ่ยชื่อคือคำรัก (Call Me By Your Name) โดย อันเดร อะซีแมน
•แครอล (Carol) โดย แพทริเซีย ไฮสมิธ
⑤ ต้านเกณฑ์ทหาร: รวมบทความนานาชาติ
แปลจากหนังสือ Conscientious Objection, Resisting Militarized Society
คณะผู้แปล ภาคิน นิมมานนรวงศ์, ต่อศักดิ์ จินดาสุขศรี, ธรรมชาติ กรีอักษร และพีระ ส่องคืนอธรรม
สำนักพิมพ์ สำนักนิสิตสามย่าน
บทเรียนเรื่องการต่อต้านการเกณฑ์ทหารจากนานาประเทศที่ตีแผ่โครงสร้างสถาบันทหารและสถาบันการเมืองที่ค้ำจุนระบบทหารเอาไว้ เนื้อหาในเล่มนี้คือการรวบรวมบทความจากการสัมมนาวิชาการเรื่อง ‘การคัดค้านการเป็นทหารโดยมโนธรรม’ ที่ตุรกี ซึ่งให้มุมมองของโครงสร้างที่กดขี่สิทธิมนุษยชน ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ข้อถกเถียงทางปรัชญาและเหตุผลทางการเมือง เพศและศีลธรรม ทัศนคติ รวมถึงข้อบทกฎหมาย ซึ่งการมองเห็นแก่นของปัญหาอาจนำมาซึ่งหนทางต่อต้านระบบทหารอย่างแข็งแกร่ง
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•นักศึกษากับสงครามปฏิวัติไทย โดย สุรชาติ บำรุงสุข
⑥ Her name is ชื่อของเธอคือ...
แปลจากหนังสือ 그녀 이름은 ผู้เขียน โชนัมจู (조남주)
ผู้แปล นิภารัตน์ รุ่งรังสี สำนักพิมพ์ Bibli
คนไทยส่วนใหญ่มักมีภาพจำถึงผู้ชายเกาหลีว่าเป็นคนอบอุ่นและโรแมนติก (ผ่านซีรีย์โทรทัศน์ที่เผยแพร่) แต่ที่จริงแล้วในประเทศเกาหลีใต้มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องทนทุกข์ ดิ้นรน และต่อสู้กับชีวิตภายใต้การกดขี่เพศหญิงในสังคมชายเป็นใหญ่ที่ฝังรากลึกตั้งแต่อดีตและยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ผู้เขียนใช้วิธีการพูดคุยกับผู้หญิงกว่า 60 คน แล้วนำมาเรียงร้อยเป็นวรรณกรรมเรื่องสั้น 28 เรื่อง นำเสนอชีวิตของ ‘เธอ’ หลากหลายวัย ฐานะ บทบาทและเชื้อชาติ ซึ่งถูกกดขี่จากโครงสร้างสังคม ขนบธรรมเนียมหรือมายาคติ ความไม่เป็นธรรมที่คอยกัดกินพวกเธออย่างเจ็บปวด
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•คิมจียอง เกิดปี 82 (82년생 김지영) โดย โชนัมจู
•ว่างยังวุ่น : ชนชั้น เพศสภาพ และเวลาว่างของผู้หญิง โดย สมสุข หินวิมาน
⑦ ความเปลี่ยวดายอันกึกก้องเกินต้าน
แปลจากหนังสือ Příliš hlučná samota ผู้เขียน โบฮุมิล ฮราบัล (Bohumil Hrabal)
ผู้แปล วริตตา ศรีรัตนา สำนักพิมพ์ Bookmoby Press
เรื่องราวของชีวิตคนงานโรงงานบดอัดกระดาษขยะรีไซเคิลในยุคสาธารณรัฐสังคมนิยมเซโกสโลวะเกียเซ็นเซอร์งานเขียนและงานศิลปะ แต่ผู้ทำหน้าที่ทำลายกลับหลงใหลการอ่าน ชื่นชมศิลปะ คลั่งไคล้วรรณกรรมและปรัชญากลับถูกจำกัดสิทธิการอ่านและลิดรอนเสรีภาพการเรียนรู้ นี่คืองานเขียนที่แสดงภาพยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงระบบสังคมที่คุกคามและกดขี่สิทธิมนุษยชนด้วยระบอบการเมืองการปกครองให้ประชาชนจำนนต่ออำนาจและยินยอมกดขี่ตัวเองเพื่อความอยู่รอด
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•ฟาเรนไฮต์ 451 (Fahrenheit 451) โดย เรย์ แบรดเบอรี
⑧ อนุสาวรีย์ (The Monument)
ผู้เขียน วิภาส ศรีทอง สำนักพิมพ์ สมมติ
การดำรงอยู่ที่เสมือนไร้เป้าหมายภายใต้การปกครองที่คนไม่มีสิทธิตัดสินชะตาของตัวเอง กดขี่ เบียดบัง และบีบคั้นจนทำให้ผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองในที่แห่งนี้ลุกขึ้นมาช่วยกันก่อสร้างอนุสาวรีย์ ด้วยความเชื่อที่ว่า นี่คือชีวิตและเป็นความสุขที่พวกเขา ‘เลือกเอง’
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
•หลงลบลืมสูญ โดย วิภาส ศรีทอง
⑨ เมียชายชั่ว
แปลจากหนังสือ ヴィヨンの妻 ผู้เขียน ดะไซ โอซามุ (太宰 治)
ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์ สำนักพิมพ์ JLIT
ภาวะของผู้หญิงที่ถูกกดขี่จากสถานะ ‘เมีย’ ต้องยอมรับความทุกข์ยาก ความลำบาก และความทุกข์ใจที่สถานะเมียนี้หยิบยื่นมาให้ด้วยความอดทน ไม่ใช่ผู้เป็นสามีที่หยิบยื่นสภาพที่น่าเศร้าใจนี้มาให้ แต่เป็นสังคมที่กดขี่เขาอยู่อีกชั้นหนึ่งและดังนั้นจึงกดขี่เธอเช่นกัน
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• สตรีผู้มีอาชีพเลี้ยงลูก (빈처) โดย รวมนักเขียนเกาหลีใต้
• มีอะไรในสวนหลังบ้าน (마당이 있는 집) โดย คิมจินยอง
• เล่นซ่อนหาย (Gone Girl) โดย กิลเลียน ฟลินน์
⑩ มันทำร้ายเราได้แค่นี้แหละ
ผู้เขียน ภรณ์ทิพย์ มั่นคง สำนักพิมพ์ อ่าน
บันทึกกว่า 800 หน้าของภรณ์ทิพย์ มั่นคง อดีตผู้ต้องหาคดี 112 ในช่วงที่ได้รับโทษจำคุกนาน 2 ปี 16 วัน จากการทำละครเวทีเรื่อง เจ้าสาวหมาป่า เมื่อ พ.ศ.2556 ตัวอักษรที่บอกเล่าถึงสิ่งที่นักโทษต้องเผชิญเมื่อถูกจำคุก ทั้งความผิดในคดีทางการเมืองและนักโทษคนอื่นจากคดีต่างๆ และการกดขี่มนุษย์โดยรัฐผ่านกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญของระบอบประชาธิปไตย ภรณ์ทิพย์ต้องลักลอบเขียนลงในกระดาษต่างๆ และต้องหาทางนำบันทึกออกมาอย่างยากลำบากเพราะนี่คือหลักฐานสำคัญที่เปิดประตูกรงแห่งดินแดนสนธยาไร้อิสรภาพให้ภายนอกได้เห็นความอ่อนแอของรัฐ ความเข้มแข็งของผู้ถูกจองจำ และความกังขาในระบบยุติธรรม
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• ตาสว่าง (Il Re di Bangkok) โดย Claudio Sopranzetti, Sara Fabbri และ Chiara Natalucci
• อยู่กับบาดแผล โดย บุญเลิศ วิเศษปรีชา
• บันทึกจากบ้านคนคุก (Notes From The Dead House) โดย ฟีโอดอร์ ดอสโตยเยียฟสกี
⑪ การศึกษาของผู้ถูกกดขี่
แปลจากหนังสือ Pedagogy of the Oppressed ผู้เขียน เปาโล เฟรรี (Paulo Freire)
ผู้แปล สายพิน กุลกนกวรรณ ฮัมดานี สำนักพิมพ์ สวนเงินมีมา
การศึกษาถือเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของผู้มีอำนาจโดยถ่ายทอดความคิด ค่านิยม และความรู้สู่ผู้เป็นเบี้ยล่างก็คือ ผู้เรียน ระบบการศึกษาไทยทำให้พื้นที่ทางการศึกษากลายเป็นพื้นที่ของอำนาจนิยม โดยใช้พิธีกรรม ธรรมเนียม เครื่องแบบและสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นกรอบกำหนดพฤติกรรม รัฐจัดการเบ็ดเสร็จโดยส่งนโบายถึงผู้มีอำนาจสูงสุดในสถานศึกษา คือ ผู้อำนวยการหรืออธิการบดี และทำการส่งต่อให้ครูเป็นคนกดขี่ผู้เรียนอีกทีหนึ่ง ทำอย่างไรให้การศึกษาสร้างโลกทัศน์มุมใหม่อันจะนำไปสู่การปลดปล่อยพันธนาการของการกดขี่ได้อย่างแท้จริง
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• การละครของผู้ถูกกดขี่ (Theater of the Oppressed) โดย ออกัสโต บูอาล
• I Am Malala โดย มาลาลา ยูซัฟไซ
⑫ อย่าเรียกฉันว่านังแพศยา
แปลจากหนังสือ I Didn’t Kill My Husband ผู้เขียน หลิวเจิ้นอวิ๋น (Liu Zhenyun)
ผู้แปล ศุนิษา เทพธารากุลการ สำนักพิมพ์ มติชน
เรื่องราวของสาวชาวบ้านที่ต่อสู้กับอำนาจรัฐ ระบบราชการ กระบวนการยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำในสังคมชายเป็นใหญ่ของประเทศจีนตลอด 20 ปี เมื่อแผนการหย่ากันปลอมๆ ถูกคุณสามีตลบหลังด้วยการไปมีเมียน้อย ภรรยาจึงต้องหาทางแก้แค้นโดยการฟ้องร้องเพื่อให้การหย่านั้นเป็นโมฆะ ผู้คนพากันตราหน้าว่าเธอเป็นนังแพศยา เหล่าเจ้าหน้าที่หัวเราะเยาะกับคดี ‘หย่าร้างกิ๊กก๊อก’ แต่เธอก็ลุยฟาดฟันกับข้าราชการน้อยใหญ่ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ มณฑล ไปจนถึงผู้นำประเทศ แม้จะเป็นการต่อสู้เรื่อง ‘ผัวๆ เมียๆ’ แต่กลับสะเทือนเลือนลั่นถึงโครงสร้างสังคมของประเทศชาติ
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• ผู้หญิง | อำนาจ (Women & Power: A Manifesto) โดย แมรี เบียร์ด
• มาเรียนนา (La lunga vita di Marianna Ucrìa) โดย ดาชา มาราอินี
• เหลี่ยมโบตั๋น (Crazy Rich Asians) โดย เควิน ควาน
⑬ ผู้อัญเชิญไฟ
แปลจากหนังสือ The Emissary ผู้เขียน โยโกะ ทาวาดะ (Yoko Tawada)
ผู้แปล มุทิตา พานิช สำนักพิมพ์ กำมะหยี่
เมื่อประเทศแห่งความเจริญทางเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่นเกิดภัยพิบัติร้ายแรงจนต้องปิดประเทศ ทุกสิ่งสามัญกลับตาลปัตร เมืองศิวิไลซ์รกร้างและเต็มไปด้วยมลพิษ ธรรมชาติ ป่าไม้และสัตว์ป่าสูญสิ้น ไม่มีอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบธนาคาร ความเชื่อเดิมถูกลบล้าง ห้ามเรียน/ใช้ภาษาต่างประเทศ เด็กอ่อนแอและอายุสั้น คนชราเป็นแรงงานและเสาหลักของสังคม ฯลฯ เรื่องราวแนวดิสโทเปียสะท้อนผลจากกดขี่ในมิติต่างอย่างแยบยล อรรถประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์กลายเป็นหลุมพลางที่กดขี่ศักยภาพของตนเองจากทั้งโครงสร้างสังคม การเมืองการปกครอง กลไกการจัดสรรทรัพยากร หรือมายาคติของความเป็นชาติที่พรางตาประชาชนเอาไว้
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• บอด (Ensaio Sobre a Cegueira) โดย ฌูเซ่ ซารามากู
• สุสานสยาม โดย ปราบต์
• Parable of the Sower โดย ออคโตเวีย อี. บัตเลอร์
⑭ บีเลิฟด์
แปลจากหนังสือ Beloved ผู้เขียน โทนี มอร์ริสัน (Toni Morrison)
ผู้แปล รังสิมา ตันสกุล สำนักพิมพ์ Library House
เรื่องราวที่เล่าผ่านสายตาของทาสคนหนึ่งผู้ปรารถนาถึงชีวิตสงบสุขและเสรี เธอจึงพาลูกๆ และแม่สามีหลบหนีไปยังรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาที่ปราศจากการกดขี่คนผิวสี แม้พวกเขาหลบหนีจนสำเร็จทว่ากลับต้องประสบกับเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงชีวิต อีกทั้งวิญญาณร้ายในอดีตที่ตามหลอกหลอนชีวิตพวกเขา วรรณกรรมรางวัล Pulitzer ปี 1987 เล่มนี้ฉายมุมมองของผู้ที่ถูกกดขี่ ซึ่งทับซ้อนอยู่ใต้อำนาจหลากหลายชั้นทั้งสีผิว เชื้อชาติ เพศสภาพ สถานะทาส สิทธิและเสรีภาพ ความเชื่อและคติ วัฒนธรรม สังคมปิตาธิปไตย การเมือง กฎหมาย ฯลฯ นี่คือบาดแผลของผู้หญิงผิวดำในสังคมอเมริกันที่ฝังรากลึกมาตั้งแต่ยุคค้าทาสมาจนถึงปัจจุบัน ยุคที่เสียงของพวกเธอยังคงเบาและถูกละเลย
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• ฤาสิ้นสุดมนุษยภาพ (Twelve Years a Slave) โดย โซโลมอน นอร์ทอัพ
• ดวงตาสีฟ้าสุดฟ้า (The Bluest Eye) โดย โทนี มอร์ริสัน
⑮ ใครคือเจ้าของบ้าน ฉันหรือแมว
แปลจากหนังสือ The Lion in the Living Room
ผู้เขียน แอบีเกล ทักเกอร์ (Abigail Tucker)
ผู้แปล โตมร ศุขปรีชา สำนักพิมพ์ Salt Publishing
การกดขี่ข่มเหงและ ‘การทำให้เป็นทาส’ ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกขณะนี้และไม่มีทีท่าว่ามนุษย์จะสามารถต่อต้านได้! ‘แมว’ สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันยอมตกเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ แต่วางแผนเข้าหามนุษย์เพื่อความสะดวกสบาย หลอกล่อให้มนุษย์หาเลี้ยง ฝึกมนุษย์จนเชื่องเพื่อเป็นทาสไว้ใช้สอย จนกระทั่งทำการยึดครองพื้นที่อาศัยของมนุษย์แทบจะเบ็ดเสร็จ หนังสือเล่มนี้ช่วยตีแผ่ภารกิจครองโลกของแมวในเชิงวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ที่มาที่ไปและวิวัฒนาการจากสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน วิถีแมวๆ ที่ส่งผลต่อสังคมและระบบนิเวศน์ของโลก
หนังสือเล่มอื่นที่น่าสนใจ
• อันตัวข้าพเจ้านี้คือแมว (吾輩は猫である) โดย นัตสึเมะ โซเซกิ
• แมวกับนายโชโซและผู้หญิงสองคน (猫と庄造と二人の女) โดย ทานิซากิ จุนอิจิโร
• How to Tell If Your Cat Is Plotting to Kill You โดย แมทธิว อินแมน